วันพุธที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2566

สลากไทพลัส กองสลากไท ปราสาทหินพิมาย

 

สลากไทพลัส พาไป
ปราสาทหินพิมาย

สลากไทพลัส กองสลากไท จะพาทุกท่านไปรู้จัก ปราสาทหินพิมาย ซึ่งถือเป็น อีกหนึ่ง พุทธสถานโบราณ อุทยานประวัติศาสตร์ ที่สำคัญของประเทศไทย มีที่ตั้งอยู่ที่  อำเภอพิมาย  จังหวัดนครราชสีมา มีเนื้อที่ทั้งหมด 115 ไร่ กว้าง 565 เมตร  ยาวประมาณ 1,030 เมตร

ภาพป้ายอุทยานประวัติศาสตร์ ปราสาทหินพิมาย

กองสลากไท : ประวัติที่มาและความสำคัญ
ปราสาทหินพิมาย

สลากไทพลัส กองสลากไท ปราสาทหินพิมาย  อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย ตั้งอยู่ในอำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมาห่างจากตัวเมืองนครราชสีมา ประมาณ 60 กิโลเมตรเป็นศาสนาสถานที่สร้างขึ้นในพุทธศาสนาลัทธิมหายานชื่อ “พิมาย” นั้นน่าจะเป็นคำเดียวกันกับชื่อ “วิมายะ” ที่ปรากฏอยู่ในจารึกภาษาเขมรบนแผ่นหินกรอบประตูโคปุระระเบียงคดด้านหน้าของปราสาทพิมายคำว่า “พิมาย” นั้นปรากฏเป็นชื่อเมืองในศิลาจารึกพบในประเทศราชอาณาจักรกัมพูชาประชาธิปไตยหลายแห่ง แม้รูปคำจะไม่ตรงกันว่าเมืองวิมาย หรือวิมายะปุระ (จารึกปราสาทพระขรรค์ พุทธศตวรรษที่ 18) โดยเฉพาะข้อความในจารึกปราสาทพระขรรค์ที่กล่าวว่าพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 โปรดให้สร้างที่พักคนเดินทาง จากราชธานีมาเมืองพิมายรวม 17 แห่งแสดงถึงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างเมืองพิมายกับอาณาจักรเขมรและแสดงว่าเป็นเมืองสำคัญ บริเวณที่ตั้งของปราสาทพิมายเมื่อดูจากภาพถ่ายทางอากาศจะเห็นได้ชัดว่าเป็นเมืองโบราณขนาดใหญ่มีผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีคู และ กำแพงเมืองล้อมรอบมีศาสนสถานอยู่กลางเมืองแวดล้อมด้วยชุมชนใหญ่น้อยรายรอบเป็นกลุ่มใหญ่ ตัวเมืองพิมายเองตั้งอยู่ที่ทำเลที่ดีและอุดมสมบูรณ์ เพราะมีลำน้ำไหล

ผ่านรอบเมืองได้แก่ แม่น้ำมูลไหลผ่านทางด้านทิศเหนือ และทิศตะวันออกด้านทิศใต้มีลำน้ำเค็มทางด้านทิศตะวันตกมีลำน้ำ จักราชไหลผ่านไปบรรจบกับแม่น้ำมูล บริเวณโดยรอบเป็นที่ราบลุ่มสามารถทำการกสิกรรมได้ดีแหล่งน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคภายในเมือง ได้แก่ สระแก้ว สระพลุ่ง สระขวัญสระน้ำที่ขุดขึ้นภายนอกเมือง คือ สระเพลงทางทิศตะวันออก สระโบสถ์ และสระเพลงแห้งทางทิศตะวันตกและอ่างเก็บน้ำ (บาราย)ขนาดใหญ่อยู่ทางทิศใต้จังหวัดนครราชสีมาในปัจจุบันเป็น ปากประตูเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและเป็นศูนย์กลางสำคัญของภาคอีสานของประเทศไทยด้วยพัฒนาการ ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่มนุษย์รู้จักเพียงการใช้หินมาทำเครื่องมือเครื่องใช้จนกระทั่งมนุษย์ในอดีตที่ราบสูงบริเวณแอ่งโคราชแห่งนี้ รู้จักเทคนิควิธีการตัดหินจากภูเขาและยกเอาหินก้อนใหญ่ ๆ มาเป็นระยะทางไกลๆ เพื่อก่อสร้างสิ่งที่เราเรียกว่า “ปราสาท” ปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ ปราสาทพิมาย เป็นศูนย์กลางและเป็นปากประตูสำคัญจากลุ่มแม่น้ำมูล ไปสู่เมืองพระนครของอาณาจักรกัมพูชาและบ้านเมืองในเขตลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างน้อยตั้งแต่ราวพุทธศตวรรษที่ 16 เป็นต้นมา

พิมายเป็นเมืองโบราณในลุ่มแม่น้ำมูลที่มีอดีตอันรุ่งเรืองและมีความอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมากตัวเมืองโบราณมีคูเมืองกำแพงเมืองล้อมรอบทั้ง 4 ด้าน มีประตูเมืองทั้ง 4 ทิศก่อด้วยศิลา ที่สำคัญคือประตูเมืองด้านทิศใต้ที่หันหน้าไปสู่ เมืองพระนครในประเทศกัมพูชาปัจจุบันกลางเมืองมีศาสนสถานขนาดใหญ่ก่อสร้างด้วยหินตั้งอยู่คือปราสาทพิมายนั่นเอง

ปราสาทพิมายนับเป็นพุทธสถานในลัทธิมหายานที่สร้างขึ้นในราวกลางพุทธศตวรรษที่ 16 กล่าวคือสร้างขึ้นก่อนปราสาทนครวัด เชื่อว่าส่วนยอดหรือหลังคาปราสาทพิมายเป็นต้นแบบของการก่อสร้างปราสาทนครวัดของเขมรในสมัยต่อมา เนื่องจากปราสาทพิมายนี้หันหน้าไปทางทิศใต้จึงเข้าใจว่าเพื่อรับกับถนนที่ตัดมาจากกัมพูชา และมีการสร้างอโรคยาศาลาและที่พักเดินทาง ขึ้นตามแนวถนนจนถึงพิมายในสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มหาราชองค์สุดท้ายของกัมพูชาโบราณสถานที่ปรากฏอยู่ในเมืองพิมาย มีอยู่หลายแห่งทั้งนอกเมืองและในเมืองที่สำคัญได้แก่ปราสาทพิมาย เดิมมีสภาพปรักหักพังทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ในพุทธศักราช 2507 กรมศิลปากรได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลประเทศฝรั่งเศสบูรณซ่อมแซมปราสาทประธานของปราสาทพิมายจนแล้วเสร็จ ในพุทธศักราช 2512 ต่อมาเมืองพิมายและปราสาทพิมายก็ได้รับการพัฒนาให้เป็นอุทยานประวัติศาสตร์พิมายในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 5 ดำเนินการบูรณะโบราณสถานตั้งแต่ พุทธศักราช 2525 เป็นต้นมา จนแล้วเสร็จและเปิด เป็นอุทยานประวัติศาสตร์อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 12 เมษายน พุทธศักราช 2532 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธานในพิธี

สิ่งก่อสร้างภายในอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย

พลับพลา
ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้ากำแพงชั้นนอก ด้านซ้ายมือของทางเดินเข้าสู่ตัวปราสาท เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า เดิมเรียกกันว่า “คลังเงิน” จากตำแหน่งที่ตั้งสันนิษฐานว่าคงเป็นที่พักเตรียมพระองค์สำหรับกษัตริย์ หรือเจ้านายชั้นสูงที่เสด็จมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนา รวมทั้งเป็นสถานที่พักจัดขบวนสิ่งของถวายต่าง ๆ จากการขุดแต่งบริเวณนี้เมื่อปี พ.ศ. 2511 ได้พบโบราณวัตถุจำนวนมาก มีทั้งรูปเคารพ เครื่องประดับ และเหรียญสำริด เป็นเหตุให้เรียกกันว่า “คลังเงิน”

สะพานนาคราช
สะพานนาคราช ปราสาทหินพิมาย
ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าโคปุระด้านทิศใต้สร้างด้วยหินทราย มีผังเป็นรูปกากบาท กว้าง 4 ม. ยาว 31.70 ม. ยกพื้นสูง ราวสะพานทำเป็นตัวนาค ที่ปลายราวสะพานทำเป็นรูปนาคราชชูคอแผ่พังพานเป็นรูปนาค 7 เศียร สะพานนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางเข้าสู่ศาสนสถานอันศักดิ์สิทธิ์ตามคติความเชื่อเรื่องจักรวาล เชื่อว่าเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับโลกสวรรค์ คตินีถือสืบกันมาในศาสนาฮินดูและพุทธศาสนานิกายมหายาน

ภาพถ่ายสะพานนาคราช ปราสาทหินพิมาย

ซุ้มประตูและกำแพงแก้ว
บริเวณชาลาทางเดินเข้าสู่ปราสาทประธานภายใน ซุ้มประตูหรือโคปุระ ตั้งอยู่กึ่งกลางของแนวกำแพงแก้ว อยุ่ในแนวตรงกันหมดทั้ง 4 ด้าน คือ ทิศเหนือ-ใต้ อยู่ตรงกึ่งกลางของกำแพง ทิศตะวันออก-ตะวันตกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย ผังโดยรอบของซุ้มประตูจะมีลักษณะเป็นรูปกากบาท จากกำแพงแก้วเข้ามาด้านในเชื่อกันว่าเป็นดินแดนของโลกสวรรค์ อันเป็นที่อยู่ของเทพเจ้า

ชาลาทางเดิน
ก่อสร้างด้วยหินทราย เชื่อมต่อระหว่างซุ้มประตูด้านทิศใต้ของระเบียงคดที่ล้อมรอบปราสาทประธาน โดยทำทางเดินยกพื้นสูงประมาณ 1 เมตร แบ่งเป็น 3 ช่องทางเดิน ผังทำเป็นรูปกากบาท จากการบูรณะพบเศษกระเบื้องมุงหลังคาและบราลีดินเผาจำนวนมาก สันนิษฐานว่าเดิมคงเป็นระเบียงโปร่ง หลังคามุงกระเบื้อง รองรับด้วยเสาไม้

ซุ้มประตูและระเบียงคด
เป็นอาคารก่อด้วยหินทรายยกพื้นสูง อยู่ล้อมรอบปราสาทประธาน ระเบียงคดมีลักษณะคล้ายกำแพงแก้วทั้ง 4 ด้าน โดยมีตำแหน่งที่ตั้งตรงกับแนวของประตูเมือง และประตูทางเข้าปราสาทประธาน ปรากฏหลักฐานสำคัญที่ซุ้มประตูด้านทิศใต้ บริเวณกรอบประตูพบจารึกภาษาเขมร อักษรขอมโบราณ ระบุศักราชตรงกับ พ.ศ. 1651–1655 กล่าวถึงการสร้างรูปเคารพ การสร้างเมือง ตลอดจนปรากฏพระนามของขุนนางชั้นสูง และพระนามมหากษัตริย์คือ พระเจ้าธรณินทรวรมันที่1

ปราสาทประธาน
ปรางค์ประธาน
เป็นส่วนสำคัญที่สุดของปราสาทหินพิมาย เป็นปราสาทองค์ใหญ่ สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 16–17 ก่อสร้างด้วยศิลาทรายสีขาวหันหน้าไปทางทิศใต้ ซึ่งแตกต่างจากศาสนสถานแบบขอมในที่อื่น ๆ ซึ่งมักจะหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ปราสาทประธานประกอบด้วยส่วนสำคัญ 2 ส่วนคือ มณฑป และ เรือนธาตุ มีการจำหลักลวดลายประดับตามส่วนต่าง ๆ เช่น หน้าบัน ทับหลัง มักจำหลักเป็นภาพเล่าเรื่องรามเกียรติ์และเรื่องราวทางพุทธศาสนา ยกเว้นทางด้านทิศใต้ จำหลักเป็นภาพศิวนาฏราช ภายในเรือนธาตุเป็นส่วนสำคัญที่สุดเรียกว่า ห้องครรภคฤหะ เป็นที่ประดิษฐานรูปเคารพสำคัญ พื้นห้องตรงมุมด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือมีร่องน้ำมนต์ต่อลอดผ่านพื้นห้องออกไปทางด้านนอก เรียกว่า ท่อโสมสูตร

ปรางค์หินแดง
สร้างขึ้นราวปลายพุทธศตวรรษที่ 17 ตั้งอยู่ทางด้านขวาของปรางค์ประธาน มีมุขยื่นออกไปทั้ง 4 ทิศ เหนือกรอบประตูทางเข้าด้านทิศเหนือ มีทับหลังหินทรายจำหลักภาพเล่าเรื่องมหากาพย์มหาภารตะ ตอนอรชุนล่าหมูป่า ส่วนกรอบประตูด้านอื่นคงเหลือร่องรอยเฉพาะเสาประดับกรอบประตูศิลปะแบบเขมรประดับอยู่

หอพราหมณ์
เป็นอาคารก่อด้วยหินทรายและศิลาแลง ตั้งอยู่บนฐานเดียวกันกับปรางค์หินแดง ในปี พ.ศ. 2493 ได้ค้นพบศิวลึงค์ สลักด้วยหินทรายจำนวน 7 ชิ้นอยู่ภายในหอพราหมณ์ เชื่อกันว่าอาคารหลังนี้คงเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาพราหมณ์ แต่จากรูปแบบและตำแหน่งที่ตั้งเดิมคงเป็นที่ตั้งของบรรณาลัยมากกว่า

ปรางค์พรหมทัต
ลักษณะของปรางค์องค์นี้ สร้างด้วยศิลาแลงตั้งอยู่ด้านหน้าของ สันนิษฐานว่าเป็นรูปจำลองของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ชาวบ้านเรียกว่า ท้าวพรหมทัต ส่วนอีกรูปเป็นรูปสตรีนั่งคุกเข่าสลักด้วยหินทราย ส่วนศีรษะและแขนหักหายไป เชื่อกันว่าเป็นรูปของพระนางชัยราชเทวีมเหสี ชาวบ้านเรียกตามนิยายพื้นบ้านว่า นางอรพิม ปัจจุบันประติมากรรมทั้ง 2 ชิ้นนี้จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพิมาย

บรรณาลัย
ตั้งอยู่บริเวณลานชั้นนอก ระหว่างกำแพงแก้วและซุ้มประตูระเบียงคด ด้านทิศตะวันตกเป็นอาคาร 2 หลังขนาดเดียวกัน ผังอาคารเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายกพื้นสูง ก่อด้วยหินทรายกั้นเป็นห้องยาวตลอดแนว พบร่องรอยหลุมเสารูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส เดิมคงเป็นหลังคาเครื่องไม้มุงกระเบื้อง เชื่อกันว่าบรรณาลัยคือสถานที่เก็บรักษาคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา

ภาพถ่ายมุมที่สวยที่สุด ปราสาทหินพิมาย

วันและเวลาทำการ

เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.00 – 18.00 น.
ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์

ค่าเข้าชม
ค่าเข้าชมชาวไทย  คนละ ๒๐ บาท
ค่าเข้าชมชาวต่างชาติ คนละ ๑๐๐ บาท
ยกเว้นค่าเข้าชมสำหรับนักเรียน/นักศึกษาในเครื่องแบบ  และภิกษุสามเณร

สลากไทพลัส สลากออนไลน์ ใบละ 80บาท ถูกรางวัลรับเต็ม ไม่หักค่าทำเนียม

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม LINE : @STPLUS

หรือ คลิกที่รูปภาพด้านล่าง

อ่านบทความเพิ่มเติมของ สลากไทพลัส

วัดตระพังเงิน สลากไทพลัส กองสลากไท



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ป้อมไพรีพินาศ

ที่เที่ยวโบราณ ป้อมไพรีพินาศ จังหวัดจันทบุรี ป้อมไพรีพินาศ ตั้งอยู่บนเขาแหลมสิงห์ หมู่ 1 ตำบลบางกะไชย อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี เป็นป้อ...