วันจันทร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2566

ประวัติวัดหนองป่าพง:โดย สลากไทพลัส กองสลากไทพลัส

สลากไทพลัส จะพามาชมประวัติวัดหนองป่าพง  อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี 

กำเนิดวัดหนองป่าพง

วัดหนองป่าพงกำเนิดเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2497 ตรงกับวันจันทร์ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 4 ปีมะเส็ง เมื่อหลวงปู่ชาพาคณะเดินทางมาถึงดงป่าพงอันหนาทึบ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านก่อ บ้านเกิดของหลวงปู่ ประมาณ 2-3 กิโลเมตร ในวันนั้นคณะธุดงค์ได้ไปปักกลดค้างแรมที่ริมหนองน้ำชายป่า




พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท) ผู้ก่อตั้งวัดหนองป่าพง

ดงป่าพงในสมัยนั้น มีสภาพเป็นป่าทึบรกร้าง ชุกชุมด้วยไข้ป่าและสัตว์ป่านานาชนิด ในเวลานั้นป่าพงเป็นดงขนาดใหญ่ มีแหล่งน้ำอุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านเรียกป่าดงดิบนี้ว่า “หนองป่าพง” เพราะใจกลางป่ามีหนองน้ำใหญ่ที่มีกอพงขึ้นอยู่หนาแน่น ดงป่าพงยังเป็นสถานที่ที่หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล และลูกศิษย์เคยมาพักธุดงค์มาก่อน ดังที่หลวงปู่เคยเล่าว่า

"สมัยที่อาตมาเป็นเด็ก ได้ยินโยมพ่อเล่าให้ฟังว่า ท่านอาจารย์เสาร์ก็เคยมาพักอยู่ที่นี่ โยมพ่อเคยได้มาฟังธรรมกับท่าน อาตมาเป็นเด็ก ๆ ยังจำได้ ความจำเช่นนี้แหละ มันติดในใจตลอดเวลา นึกอยู่เสมอ ๆ เลย เพราะว่าบ้านนี้มันเป็นบ้านร้าง ดูต้นมะม่วงใหญ่ ๆ ของเก่าแก่ทั้งนั้น




โยมพ่อเคยเล่าให้ฟังว่า มากราบพระกรรมฐาน มาดูท่านฉันจังหัน ก็เอาอาหารอะไรรวมลงในบาตรทั้งนั้นแหละ ข้าวก็รวมลงในบาตร แกงก็รวมใส่ในบาตร หวานคาวใส่ในบาตรหมด โยมพ่อหม่เคยเห็น เอ๊ะ! นี่พระอะไร เคยเล่าให้อาตมาฟังตอนเป็นเด็ก ท่านเรียกว่าพระกรรมฐาน เทศน์ก็ไม่เหมือนพระธรรมดาเรา อยากจะได้ฟังเทศน์ก็ไม่ได้ฟัง มีแต่พูดไปโป้ง ๆ เท่านั้น ก็เลยไม่ได้ฟังเทศน์กัน ได้ฟังแต่คำพูดท่าน อันนั้นคือพระปฏิบัติที่มาอาศัยอยู่นี้ ครั้นเมื่อได้ออกมาประพฤติปฏิบัติเองแล้ว ความรู้สึกอันนี้มันมีอยู่ในใจตลอดเวลา เมื่อหันหน้าเข้ามาทางบ้านก็นึกถึงป่านี้ไม่ได้ขาด เมื่อธุดงค์ไปพอสมควรแล้วก็ได้กลับมาอยู่ ณ ที่นี้

ระยะหนึ่ง พระอาจารย์ดีจากอำเภอพิบูลมังสาหาร กับท่านเจ้าคุณชินฯ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย) เขานิมนต์มาอยู่ที่นี่ อยากจะอยู่ที่นี่เหมือนกัน แต่ท่านว่าท่านอยู่ไม่ได้ ท่านอาจารย์ดีบอกว่าที่นี่ไม่ใช่ของท่าน ท่านเจ้าคุณชินฯ ก็ยังพูดเสมอ ที่นี่เราอยู่ไม่ได้ ไม่ใช่ที่อยู่ของเรา เจ้าของที่ที่นี่ ไม่นานเดี๋ยวท่านก็มาของท่าน"




ในวันถัดมา คณะธุดงค์ได้เข้าสำรวจดงป่าพงซึ่งรกทึบมาก ชาวบ้านที่มาต้อนรับ ได้จัดที่พักชั่วคราวที่บริเวณต้นมะม่วงใหญ่ (ด้านทิศใต้ของโบสถ์ปัจจุบัน) ต่อมาเมื่อพิจารณาเห็นสมควร และตกลงจัดตั้งสำนักสงฆ์ ณ ที่นั้น จึงได้เริ่มการปลูกสร้างเสนาสนะขึ้นด้วยแรงศรัทธาจากญาติโยมชาวบ้านก่อและบ้านกลาง ได้กุฏิเล็ก ๆ 3-4 หลัง มุงด้วยหญ้าคา พื้นปูด้วยฟากไม้ไผ่ ฝากั้นด้วยใบตองชาดและต้นเลาต้นแขม หลังจากมีกุฏิพอกันแดดกันฝนได้บ้างแล้ว หลวงปู่ก็พาหมู่คณะมุ่งบำเพ็ญภาวนาอย่างพากเพียร แม้ขณะนั้น จะลำบากยากไร้ปัจจัย เครื่องอาศัยแทบทุกอย่าง ดังที่หลวงปู่เล่าถึงความเป็นอยู่ในครั้งนั้นให้ว่า

บุพนิมิต

เมื่อถึงวันเพ็ญเดือน 4 ปีมะเส็ง นับได้ 10 วันหลังจากที่หลวงปู่และคณะธุดงค์พักอยู่ที่ดงป่าพง ช่วงหัวค่ำได้มีญาติโยมมาฟังธรรมประมาณสิบกว่าคน หลวงปู่ได้เตือนทุกคนล่วงหน้า ให้อยู่ในความสงบ มีอะไรเกิดขึ้นก็อย่าตกใจ อย่าส่งเสียง เมื่อหลวงปู่แสดงธรรมไปสักพักก็เกิดดวงไฟสว่างคล้ายกับดาวหาง ปรากฏขึ้นทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ แล้วลอยลับตาไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ แสงไฟนั้นสว่างจ้าดุจกลางวัน เสมือนเป็นบุพนิมิต และเป็นสิริมงคลแก่วัดหนองป่าพง แต่ตัวหลวงปู่ไม่ได้สำคัญมั่นหมายอะไร ยังคงแสดงธรรมต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ญาติโยมเกิดความสงสัยและประหลาดใจ แต่ทุกคนไม่ได้แตกตื่นกลับพากันนั่งเงียบ หลวงปู่ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อีก และนี่ก็เป็นหลักในการอบอรมชาวบ้านของท่านตลอดมาว่า แม้สิ่งอัศจรรย์ก็เป็นสักแต่ว่าสิ่งธรรมดานั่นเอง อย่าพึงตื่นเต้นกับมันเลย


สลากไทพลัส สลากออนไลน์ ใบละ 80บาท ถูกรางวัลรับเต็ม ไม่หักค่าทำเนียม

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม LINE : @STPLUS

หรือ คลิกที่รูปภาพด้านล่าง


อ่านบทความเพิ่มเติมของ สลากไทพลัส



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ป้อมไพรีพินาศ

ที่เที่ยวโบราณ ป้อมไพรีพินาศ จังหวัดจันทบุรี ป้อมไพรีพินาศ ตั้งอยู่บนเขาแหลมสิงห์ หมู่ 1 ตำบลบางกะไชย อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี เป็นป้อ...