วันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2566

ประวัติความเป็นมาของวัดราชสิงขร เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานครโดย: สลากไทพลัส กองสลากไทพลัส

สลากไทพลัส พามาชมc

ประวัติวัดราชสิงขร

วัดราชสิงขร พระอารามหลวง เป็นพระอารามหลวง ชั้นตรีชนิดสามัญ ตั้งอยู่เลขที่ 2114 ถนนเจริญกรุง 74แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร มีที่ดินตั้งวัด เนื้อที่ 11 ไร่ 1 งาน 98 ตารางวา




วัดราชสิงขร พระอารามหลวงเป็นวัดโบราณ สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยา ในรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (พุทธศักราช 2275–2301) ในสมัยรัชกาลที่ 1 สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท โปรดให้ช่างหลวงวังหน้าสร้างพระอุโบสถ มีหลักฐานที่ปรากฏคือใบเสมาหินชนวนที่ฝังไว้กับผนังด้านนอกพระอุโบสถ ซึ่งมีลักษณะ เดียวกันกับวัดชนะสงครามและวัดมหาธาตุ อันเป็นพระอาราม ที่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่า สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ทรงเป็นผู้ปฏิสังขรณ์ ลักษณะของการใช้ใบเสมานั้นฝังติดกับผนังพระอุโบสถทั้ง 8 ทิศ เป็นพุทธศิลปะที่สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงโปรดปรานเป็นการเฉพาะ นอกจากนั้นปรากฏหลักฐาน พระวิหาร สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทโปรดให้สร้างไปพร้อม ๆ กันกับการสร้างพระอุโบสถเพื่อประดิษฐาน พระพุทธสุโขทัยหรือหลวงพ่อแดง




พระอุโบสถและพระวิหาร

จากการบันทึกเล่าของวัดว่า เมื่อปีพุทธศักราช 2374 พระองค์เจ้าหญิงพิกุลทอง และพระองค์เจ้าหญิงเกสรพระธิดาในสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทได้ทรงทำนุบำรุงและบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ โดยได้รับการสนับสนุนจากขุนนางข้าราชการ ตลอดจนพ่อค้า ประชาชน ตามหลักฐานศิลาจารึกที่พบอยู่บนหน้าพระอุโบสถและพระวิหาร ในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (พ.ศ. 2367-2394) โปรดทำเป็นแบบศิลปะราชนิยม ในสมัยซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และได้นิยมสร้างกันในช่วงยุครัชกาลที่ 3 เท่านั้นกล่าวคือ มีการเปลี่ยนแปลงเครื่องบนของพระอุโบสถและพระวิหารเช่น ส่วนหลังคาได้ถอดเครื่องประดับที่จะเกิดความเสียหายได้ง่ายออกไป และหันมาใช้วัสดุที่คงทนยิ่งขึ้น เช่น ลดช่อฟ้า ใบระกาลง เปลี่ยนเป็นการก่ออิฐถือปูน หน้าบันประดับด้วยตุ๊กตาสิงห์จาน ชาม และกระเบื้องเคลือบลายจีน ลายทับทิม ซุ้มประตูและหน้าต่างลายปูนปั้นลงรักปิดทอง รูปลายดอกไม้อย่างจีนซึ่งได้นำเข้าจากประเทศจีน ปัจจุบันยังมีพอเหลืออยู่บ้าง บางส่วนได้เก็บรักษาไว้เป็นตัวอย่างให้ผู้สนใจได้ศึกษาต่อไป ในส่วนของพระอุโบสถ ถึงแม้ว่าจะได้บูรณปฏิสังขรณ์ให้เห็นเป็นแบบศิลปะราชนิยม ในสมัยรัชกาลที่ 3 แล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงฝังใบเสมาติดกับผนังด้านนอกของตัวพระอุโบสถอยู่เช่นเดิมจนถึงปัจจุบันนี้ก็ไม่ปรากฏให้เห็นได้ เพราะในการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งหลังสุดนี้ ได้โบกฉาบปูนทับไว้ให้เหมือนเดิมทุกประการ แต่ด้วยเหตุดังกล่าวนี้ถ้าหากไม่พูดถึงคงไม่มีใครทราบได้ว่า ใบเสมาพระอุโบสถวัดราชสิงขรอยู่ ณ ที่ใด หลังไหนเป็นพระอุโบสถหรือพระวิหาร เพราะขนาดและรูปลักษณะของทรวดทรงสูงต่ำเท่ากันและตั้งอยู่ในตำแหน่งคู่ขนานที่ใกล้เคียงกัน ห่างกันแค่ประมาณ 16 เมตร อีกด้วย ดังนั้น จึงไม่ปรากฎให้เห็นใบเสมาตั้งรายรอบพระอุโบสถเหมือนอย่างวัดอื่น ๆ ที่มีพระอุโบสถศิลปะแบบเดียวกัน




พระประธาน ในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ศิลปะสมัยอู่ทอง พระวิหาร สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาทโปรดให้สร้างพระวิหารไปพร้อมกันกับการสร้างพระอุโบสถ สร้างขึ้นเป็นแบบดั้งเดิม เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก หลังคามุงกระเบื้องประดับช่อฟ้า ใบระกา หน้าบันเป็นไม้ ภายในประดิษฐานหลวงพ่อแดง และต่อมาในปีพุทธศักราช 2464 ในสมัยรัชกาลที่ 6ได้มีการบูรณะในส่วนหลังคาพระวิหาร แต่ไม่ปรากฏชื่อของผู้บูรณะ

ประวัติพระพุทธสุโขทัย หลวงพ่อแดง

พระพุทธสุโขทัย หลวงพ่อแดง ในพระวิหาร

หลวงพ่อแดง เป็นพระพุทธรูปสำคัญประจำวัดราชสิงขร เนื้อสำริด ปางมารวิชัยศิลปะแบบอยุธยาที่มีอิทธิพลของศิลปะสุโขทัย ได้อัญเชิญมาจากกรุงศรีอยุธยา ทางแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมกับหลวงพ่อทองคำและหลวงพ่อสัมฤทธิ์ ในระยะเวลาก่อนที่จะเสียกรุง ขณะที่ล่องมาใกล้จะถึงวัดราชสิงขรด้วยกระแสน้ำไหลเชี่ยวเพราะเป็นฤดูน้ำหลาก จึงทำให้การควบคุมแพเป็นไปอย่างยากลำบาก แพได้เสียหลักและแตกหักพัง ทำให้หลวงพ่อแดงจมลงในน้ำ ณ ที่ฝั่งตรงกันข้าม กับวัดราชสิงขรพอดี ณ ครั้งนั้นผู้คนชาวฝั่งธนบุรีได้ลือและแตกตื่น แม้จะได้ประกอบพิธีอัญเชิญหลวงพ่อแดงโดยประการใด ๆ ก็ตามไม่สามารถนำหลวงพ่อแดง ขึ้นจากน้ำได้ ต่อมาจะด้วยสิ่งดลใจหรือปาฏิหาริย์ผู้คนฝั่งวัดราชสิงขร (กรุงเทพ) ทราบข่าวเหตุการณ์จึงได้ไปขอเจรจาขออัญเชิญหลวงพ่อแดง มาประดิษฐานไว้ ณ วัดราชสิงขรเป็นที่สำเร็จตามคำขออัญเชิญในฤดูน้ำลด เหตุขนานนามว่า หลวงพ่อแดง เนื่องจากได้อัญเชิญขึ้นฝั่งวัดราชสิงขรเป็นผลสำเร็จแล้วได้ประดิษฐานอยู่กลางแจ้งและได้ทำความสะอาดชำระคราบโคลนตมและตะไคร่น้ำออกแล้ว ปรากฏว่าเกิดเป็นสีสนิมแดงจับทั่วทั้งองค์พระอย่างเห็นได้ชัด ชาวบ้านฝั่งวัดราชสิงขรจึงได้พากันนิยมขนานนามว่าหลวงพ่อแดง สืบต่อกันมาตราบทุกวันนี้


สลากไทพลัส สลากออนไลน์ ใบละ 80บาท ถูกรางวัลรับเต็ม ไม่หักค่าทำเนียม

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม LINE : @STPLUS

หรือ คลิกที่รูปภาพด้านล่าง


อ่านบทความเพิ่มเติมของ สลากไทพลัส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ป้อมไพรีพินาศ

ที่เที่ยวโบราณ ป้อมไพรีพินาศ จังหวัดจันทบุรี ป้อมไพรีพินาศ ตั้งอยู่บนเขาแหลมสิงห์ หมู่ 1 ตำบลบางกะไชย อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี เป็นป้อ...